Share
สำรวจยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ
สำรวจยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ

Table of Contents

Latest Post
Enjoyed This Article?
Join our community of 3 million people and get updated every week We have a lot more just for you! Lets join us now

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 หรือ ยูโร 2020 เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว และเหลือเพียงแค่ 4 ทีมสุดท้ายแล้วด้วย โดย อิตาลี จะเผชิญหน้ากับ สเปน ส่วนอีกคู่หนึ่ง อังกฤษ จะพบกับ เดนมาร์ก เพื่อตามหา 2 ทีมสุดท้ายที่จะได้ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์กันต่อไป 

ฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ

บอลยูโร 2020 รอบ 4 ทีมสุดท้าย

อังกฤษ แนวรับสุดเจ๋งยังไม่เสียประตูเลย

แม้จะมีนักเตะฝีเท้าดีในแนวรุกอยู่เต็มไปหมดเลย แต่จุดเด่นของ อังกฤษ ในยุคปัจจุบันกลับอยู่ที่แนวรับ เพราะยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว และเก็บคลีนชีทจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ถึง 5 เกมติดต่อกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเกมบุกที่เริ่มเข้าฝักจากการสอยตาข่ายในรอบน็อคเอาท์ได้แบบเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย จึงมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยแรกได้เหมือนกัน หลังจากที่เคยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ผ่านถึงรอบรองชนะเลิศมาแล้ว 2 ครั้งในศึกยูโร 1968 และในศึกยูโร 1996 นั่นเอง แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องผ่านรอบตัดเชือกไปให้ได้เสียก่อน 

สเปน เน้นครองบอลลุยไปยิงได้เยอะสุด

มีสถิติบ่งชี้ว่า สเปน เป็นทีมที่ครองบอลในศึกยูโร 2020 ได้มากที่สุด และผ่านบอลสำเร็จได้มากที่สุดถึง 4,143 ครั้งเลยด้วย แม้จะโดนวิจารณ์ว่าเป็นทีมที่ใช้โอกาสยิงประตูได้เปลืองมากๆ แต่ก็เป็นทีมที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน โดยเป็นทีมที่ยิงตรงกรอบได้มากที่สุดถึง 39 ครั้ง และสอยตาข่ายได้มากที่สุดถึง 12 ประตู ถ้านับจนถึงในช่วงหลังจบเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายนั่นเอง จึงมีโอกาสลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปได้มากที่สุดถึง 4 สมัย หลังจากที่เคยสัมผัสมาแล้วถึง 3 ครั้งในศึกยูโร 1964, ยูโร 2008 และยูโร 2012 เท่ากับ เยอรมนี พอดีเลย

อิตาลี มีดีที่แดนกลางเชื่อมเกมลื่นไหล

จุดแข็งของ อิตาลี ในยุคปัจจุบันอยู่ที่แดนกลาง เพราะสามารถครองบอลได้เหนียวแน่น เพื่อช่วยประคองเกมรับในยามที่โดนฝั่งตรงข้ามไล่กดดัน และพร้อมจ่ายทะลุช่องขึ้นไปข้างหน้าเพื่อให้นักเตะในแนวรุกจบสกอร์ได้ทุกเมื่อเลย นอกจากนี้ยังมีกองหลังที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน จึงไร้พ่ายจากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 32 เกมติดต่อกัน ทำให้มีโอกาสไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 ได้เหมือนกัน หลังเหินห่างมานานตั้งแต่ตอนสมัยที่คว้าแชมป์สมัยแรกในศึกยูโร 1968 เมื่อ 53 ปีที่แล้ว  

เดนมาร์ก ทีมสปิริตสุดแกร่งเพื่ออีริคเซ่น

เพราะเจอเหตุการณ์ที่ คริสเตียน อีริคเซ่น วูบหมดสติคาสนาม ทำให้เหล่าขุนพลแข้ง เดนมาร์ก มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้นเยอะเลย เพราะสามารถร่วมใจกันเล่นเพื่อเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี แม้จะออกสตาร์ทในรอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดแรกด้วยความพ่ายแพ้ แต่สามารถกลับมาคว้าชัยในนัดสุดท้ายจนได้ผ่านเข้ารอบแบบหวุดหวิด และได้ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปี หลังจากที่เคยสร้างตำนาน “เทพนิยายเดนส์” จากเมื่อตอนที่ได้สัมผัสแชมป์มาแล้วหนึ่งสมัยในศึกยูโร 1992 นั่นเอง จึงพร้อมไปให้ถึงนัดชิงเพื่อตามล่าบัลลังก์เจ้ายุโรปเป็นสมัยที่ 2 ให้ได้อีกครั้ง  

“หัวหอกเช็ก” ยิงเท่ากับ “โรนัลโด้” ดาวซัลโวยูโร 2020

ในช่วงหลังจบรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2020 มีนักเตะ 2 คนที่นำเป็นดาวซัลโวจากการยิงได้ 5 ประตูเท่ากันเลย นั่นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย และ พาทริค ชิก กองหน้าทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้วด้วยเช่นกัน ส่วน แคสเปอร์ โดลเบิร์ก กองหน้าทีมชาติเดนมาร์ก รวมถึง 2 แนวรุกทีมชาติอังกฤษ นั่นก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แฮร์รี่ เคน ยังคงมีโอกาสลุ้นดาวซัลโวได้อยู่เหมือนกัน เพราะยิงไปแล้ว 3 ประตูเท่ากันพอดี แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยิงประตูในเกมที่เหลือให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้แซงหน้าผู้นำทั้งสองคนดังกล่าว 

5 ประตู – คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), พาทริค ชิก (สาธารณรัฐเช็ก)

4 ประตู – โรเมลู ลูกากู (เบลเยี่ยม), คาริม เบนเซม่า (ฝรั่งเศส), เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (สวีเดน)

3 ประตู – แคสเปอร์ โดลเบิร์ก (เดนมาร์ก), จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (ฮอลแลนด์), แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (อังกฤษ), เซอร์ดาน ชากิรี่ (สวิตเซอร์แลนด์), โรเบิร์ต เลวานดอสฟกี้ (โปแแลนด์), ฮาริส เซเฟโรวิช (สวิตเซอร์แลนด์)

“ทำเข้าประตูตัวเอง” มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

แม้จะแข่งกันยังไม่จบทัวร์นาเมนต์ แต่ตอนนี้ ศึกยูโร 2020 ได้สร้างสถิติมีผู้เล่นทำเข้าประตูฝั่งตัวเองมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ไปแล้วถึง 10 ลูกเลยทีเดียว หากนับกันจนถึงในช่วงหลังจบรอบ 8 ทีมสุดท้าย และมีโอกาสสร้างตัวเลขเพิ่มเติมจนกว่าจะถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วย

ก่อนหน้านี้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งยุโรปได้มีการฟาดแข้งกันมาแล้วทั้งหมด 15 ครั้งในช่วงตลอดระยะเวลา 61 ปี ปรากฎว่ามีการทำเข้าประตูตัวเองร่วมกันทั้งสิ้น 9 ลูกเท่านั้น ส่วนรายชื่อของ 10 นักเตะที่ทำเข้าประตูตัวเองในศึกยูโร 2020 มีดังต่อไปนี้เลย

เมริห์ เดมิราล กองหลังทีมชาติตุรกี นัดที่แพ้ อิตาลี 0-3

วอจ์เซียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูทีมชาติโปแลนด์ นัดที่แพ้ สโลวะเกีย 1-2

มัตต์ ฮุมเมลส์ กองหลังทีมชาติเยอรมนี นัดที่แพ้ ฝรั่งเศส 0-1

ลูคัส ฮราเด็คกี้ ผู้รักษาประตูทีมชาติฟินแลนด์ นัดที่แพ้ เดนมาร์ก 0-2

รูเบน ดิอาส กองหลังทีมชาติโปรตุเกส นัดที่แพ้ เยอรมนี 2-4

ราฟาเอล เกร์เรโร่ กองหลังทีมชาติโปรตุเกส นัดที่แพ้ เยอรมนี 2-4

มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตูทีมชาติสโลวะเกีย นัดที่แพ้ สเปน 0-5

ยูราจ์ คูชก้า กองกลางทีมชาติสโลวะเกีย นัดที่แพ้ สเปน 0-5

เปดรี้ กองกลางทีมชาติสเปน นัดที่ต่อเวลาพิเศษชนะ โครเอเชีย 5-3

เดนิส ซากาเรีย กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ นัดที่แพ้ สเปน ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน หลังเสมอกันในช่วง 120 นาที 1-1

“เวมบลีย์” สนามชิงชัยรอบรองชนะเลิศ

ในศึกยูโร 2020 มีประเทศต่างๆ สวมบทเป็นเจ้าภาพร่วมกันมากถึง 11 ชาติเลยทีเดียว แต่เมื่อเดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศจะเหลือสังเวียนแข้งเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น โดยทั้ง 2 คู่ในรอบตัดเชือกจะลงเตะในสนามเดียวกัน นั่นก็คือ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทัพลูกหนัง “สิงโตคำราม” อังกฤษ และจะใช้เป็นสังเวียนแข้งในรอบชิงชนะเลิศด้วยเช่นกัน

ส่องทีมเต็งแชมป์ยูโร 2020

William Hills บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายของเกาะอังกฤษ ได้ออกอัตราต่อรองทีมเต็งแชมป์ยูโร 2020 ในช่วงหลังจบรอบ 8 ทีมสุดท้าย เพราะได้เห็นหน้าตาของ 4 ทีมสุดท้ายในรอบรองชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว โดยกให้ อังกฤษ เป็นเต็งหนึ่งด้วยราคา 6 ต่อ 4 หรือแทง 4 จ่าย 6 ไม่รวมทุน ส่วนเต็ง 2 เป็นของ อิตาลี ตามมาด้วยเต็ง 3 นั่นก็คือ สเปน และปิดท้ายเต็ง 4 ได้แก่ เดนมาร์ก นั่นเอง

6/4 : อังกฤษ

9/4 : สเปน

3/1 : อิตาลี

9/1 : เดนมาร์ก

โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ

โปรแกรมการแข่งขันฟุตอบลยูโร 2020 รอบ 4 ทีมสุดท้าย

6 ก.ค. อิตาลี พบ สเปน ที่เวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 02.00 น.

7 ก.ค. อังกฤษ พบ เดนมาร์ก ที่เวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เวลา 02.00 น.

Published: July 5, 2021
Writen by

Leave a Comment